เริ่มแล้ว งานประเพณีรับบัว ประเพณีหนึ่งเดียวในโลก วันที่ 20-23 ตุลาคมนี้ ที่อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
ที่ลานหน้าโบสถ์หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน (พระอารามหลวง) อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เป็นประธานเปิดงานประเพณีรับบัว ประเพณีหนึ่งเดียวในโลก โดยมีนางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ นายธฤต สำราญเวทย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดสมุทรปราการ และอำเภอบางพลี พี่น้องประชาชนร่วมพิธีเปิดงานเป็นจำนวนมาก
นายธวัชชัย นามสมุทร นายอำเภอบางพลี กล่าวรายงานว่า อำเภอบางพลี ได้จัดงานประเพณีรับบัว ประจำปี 2561 ประเพณีหนึ่งเดียวในโลก โดยร่วมกับจังหวัดสมุทรปราการ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ และองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ ร่วมกันจัดขึ้นทุกปีในช่วงเทศกาลออกพรรษา โดยในปีนี้กำหนดจัดงานประเพณีรับบัวขึ้น ระหว่างวันที่ 20-23 ตุลาคม 2561 ที่บริเวณหน้าวัดบางพลีใหญ่ใน (พระอารามหลวง) และลานวัฒนธรรมหน้าที่ว่าการอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งในวันที่ 23 ตุลาคม 2561 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป จะเป็นวันเปิดงานกิจกรรมโยนบัว นมัสการองค์หลวงพ่อโตจำลองทางน้ำ และมีการประกวดขบวนเรือสวยงาม เรือความคิดสร้างสรรค์ และเรือตลกขบขัน การแข่งขันชกมวยทะเล และการแข่งขันกินข้าวต้มมัด รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย ที่บริเวณลานวัฒนธรรมอำเภอบางพลี
สำหรับงานประเพณีรับบัว เป็นประเพณีเก่าแก่สืบทอดกันมาแต่โบราณของชาวอำเภอบางพลี ในอดีต มีชาวบ้านที่เป็นชาวไทย ชาวลาว และชาวรามัญมาตั้งถิ่นฐานอยู่ ประกอบอาชีพแตกต่างกันไป และได้ช่วยกันพัฒนาพื้นที่รกร้าง ลำคลองอซึ่งเต็มไปด้วยต้นอ้อ กอแขม และวัชพืชต่าง ๆ เพื่อใช้ประโยชน์ในการทำเกษตรกรรม ส่วนทางทิศใต้นั้นมีป่าล้อมรอบ น้ำมีสภาพเป็นน้ำเค็ม และทางทิศเหนือมีบึงใหญ่ที่มีบัวงอกงามอย่างหนาแน่นทั่วทั้งบริเวณ
ดังนั้น ชาวไทย ชาวลาว และชาวรามัญ จึงได้ร่วมกันพัฒนาผืนดินแห่งนี้เรื่อยมา จนมาบรรจบกันที่ทางสามแยก ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทิศเหนือ และทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ที่ประกอบด้วย ปากน้ำลำคลอง 3 สาย ได้แก่ คลองสลุด คลองชวดลากข้าว และคลอดลาดกระบัง ต่อมาชาวรามัญที่แยกไปประกอบอาชีพ ณ คลองลาดกระบัง เริ่มมีรายได้และผลผลิตตกต่ำ จึงอพยพกลับสู่ถิ่นฐานเดิม คือ ฝั่งบ้านปากลัด อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ มีกำหนดการเดินทางในวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 พร้อมกับเก็บดอกบัวหลวงบริเวณนั้นเป็นจำนวนมาก เพื่อเตรียมบูชาและได้บอกกับชาวไทยที่สนิทสนมว่า เมื่อถึงวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 ในปีต่อ ๆ ไป ขอให้คนไทยช่วยกันเก็บดอกบัวหลวงไปไว้ ณ วัดหลวงพ่อโต หรือวัดบางพลีใหญ่ใน สำหรับมอบให้ชาวรามัญ เพื่อนำไปเป็นพุทธบูชาในวันออกพรรษา และด้วยน้ำใจที่คนไทยมีต่อชาวรามัญ จึงมีความยินดีที่จะทำตามที่ชาวรามัญได้ขอเอาไว้ หลังจากชาวรามัญได้พากันกราบนมัสการหลวงพ่อโต และอัญเชิญน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ติดตัวไปด้วย แล้วจึงลากลับบ้านปากลัด เพื่อนำดอกบัวไปบูชาพระพันคาถา ที่ปากลัด
ในปีต่อ ๆ มา เมื่อครบกำหนดขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 ชาวบางพลีก็จะเก็บดอกบัวมาไว้ที่วัดหลวงพ่อโต หรือวัดบางพลีใหญ่ใน ตามสัญญาที่ได้ให้ไว้กับชาวรามัญ ซึ่งชาวรามัญจะเดินทางมารับดอกบัวเหล่านั้นในเวลา 03.00-05.00 น. และมีการจัดเตรียมขนมคาวหวานนานาชนิดไว้ต้อนรับ เมื่อชาวรามัญอิ่มหนำสำราญแล้ว จะนำดอกบัวเข้าไปนมัสการหลวงพ่อโตในวิหาร และอัญเชิญน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์กลับไปด้วย เพื่อเป็นสิริมงคล พร้อมทั้งนำดอกบัวกลับไปบูชาพระคาถาพัน ซึ่งได้ทำสืบทอดกันมาจากอดีตมาจนถึงปัจจุบันนี้ โดยในวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 จะมีการอัญเชิญหลวงพ่อโตจำลอง ลงเรือแห่ไปตามลำคลองสำโรง เพื่อให้ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ริมสองฝั่งคลอง ได้ร่วมสักการบูชา โดยการโยนดอกบัวลงไปในเรือที่องค์หลวงพ่อโตประดิษฐานอยู่ มีความเชื่อกันว่า หากสามารถโยนดอกบัวลงไปในเรือที่องค์หลวงพ่อโตประดิษฐานอยู่แล้ว อธิษฐานสิ่งใดไว้ก็จะประสบความสำเร็จดังที่ปรารถนาไว้
********************