โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต สาธิตการผ่าตัด (Endoscopic Surgery) ผ่านกล้องทางนรีเวช เพื่อพัฒนาทักษะให้แก่แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ในจังหวัดภูเก็ต
จากการที่ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ได้จัดการประชุมโครงการการพัฒนาทักษะการผ่าตัด (Endoscopic Surgery) และการดูแลผู้ป่วยผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวชขึ้น ระหว่างวันที่ 5-6 พฤศจิกายน 2561 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางสาธารณสุขในจังหวัดภูเก็ต ให้มีความรู้ มีทักษะที่ดีต่อการดูแลผู้ป่วยในทุกระยะของการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช ทั้งยังเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับโรคทางนรีเวชที่สามารถผ่าตัดส่องกล้อง และการดูแลผู้ป่วยในทุกระยะของการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวชนั้น
โดยเมื่อวานที่ผ่านมา (5 พฤศจิกายน 2561) เป็นการให้ความรู้ในภาคบรรยาย โดยทีมวิทยากรจากภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมอบรมซึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งจากโรงพยาบาลรัฐ และเอกชนในจังหวัดภูเก็ต กว่า 150 คน ได้มีโอกาสในการซักถามในประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับการผ่าตัด (Endoscopic Surgery) ผ่านกล้องทางนรีเวช
สำหรับในวันนี้ (6 พฤศจิกายน 2561) เป็นกิจกรรมให้ความรู้บรรยายประกอบการปฏิบัติการผ่าตัดจริงผ่าน Video Conference จากห้องผ่าตัด อาคารผู้ป่วยนอก ชั้น 6 มายังห้องประชุมราชพฤกษ์ อาคารบ้านคุณพุ่ม โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ปวิตร สุจริตพงศ์ จากภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เป็นแพทย์หัวหน้าทีมผ่าตัด และมีนายแพทย์มนตรี บุญยกิตานนท์ นายแพทย์ชำนาญการ แผนกสูติ-นรีเวชกรรมฯ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เป็นแพทย์ผู้ร่วมผ่าตัด ซึ่งกิจกรรมในวันนี้ได้รับความสนใจจากบุคลากรทางการแพทย์ผู้เข้าร่วมการอบรมเป็นอย่างดี เพราะเป็นเทคโนโลยีใหม่รวมถึงเป็นการเรียนรู้ประกอบการปฏิบัติจริง และยังมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คอยบรรยายประกอบ Video Conference จากห้องผ่าตัดอีกด้วย
โดยเคสผู้ป่วยที่ทำการรักษาโดยการผ่าตัด (Endoscopic Surgery) ผ่านกล้องทางนรีเวช ในวันนี้ เป็นคนไข้เพศหญิง อายุ 53 ปี มีข้อบ่งชี้ คือ มีเนื้องอกที่มดลูก โดยผู้ป่วยมีอาการปวดท้อง และมีเลือดออกทางช่องคลอดคล้ายประจำเดือนตลอดเวลา ผู้ป่วยจึงตัดสินใจเข้ามาตรวจภายในที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ทีมแพทย์ได้ทำการอัลตร้าซาวด์พบว่ามีก้อนเนื้องอกบริเวณมดลูก ซึ่งอาการดังกล่าวส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของคนไข้ ทีมแพทย์จึงทำการประเมินร่วมกันว่าผู้ป่วยควรที่จะเข้ารับการผ่าตัด สำหรับการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช จะใช้เครื่องมือพิเศษ และกล้องขยายช่วยในการผ่าตัด ซึ่งจะมีข้อดีหลายอย่างเมื่อเทียบกับการผ่าตัดเปิดหน้าท้องแบบเดิม คือแผลมีขนาดเล็กกว่า ผู้ป่วยจะสูญเสียเลือดน้อย และใช้เวลานอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลเพียง 1-2 วัน ก็จะสามารถกลับบ้านได้
ด้าน นายแพทย์ปวิตร สุจริตพงศ์ จากภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล แพทย์หัวหน้าทีมผ่าตัด ยืนยันว่า เทคโนโลยีนี้เหมาะสำหรับผ่าตัดรักษาโรคทางนารีเวช เพราะการผ่าตัดผ่านกล้องทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และหมดปัญหาหน้าท้องที่เป็นแผลยาวไม่สวยงาม มีความปลอดภัย อาการปวดแผลน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการผ่าตัดเปิดแผลแบบเดิม